Last updated: 21 ส.ค. 2567 |
นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในการแถลงข่าวเรื่องการยกเลิกการจัดการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนอินดอร์และมาเชียลอาร์ทเกมส์ ครั้งที่ 6. ที่ห้องประชุม1 ชั้น4 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 พระชนมพรรษา การกีฬากีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม โดยมี ดร.ก้องศักดิ์ ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย และคณะผู้บริหารเข้าร่วม..
นายเสริมศักดิ์ กล่าวว่า การแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนอินดอร์และมาร์เชียลอาร์ทเกมส์ จริงๆ จะต้องจัดตั้งแต่ปี 2564 แต่มีการเลื่อนมาเรื่อยๆ อย่างไรก็ตามเรามีการเตรียมการตลอด 4 ปีที่ผ่านมา มีการอนุมัติงบประมาณไปแล้วกว่า 900 ล้านบาท โดยเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม ตนได้เดินทางไปร่วมพิธีเปิดโอลิมปิกเกมส์ ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส และได้มีการพูดคุยกับสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย (โอซีเอ) มีการคุยกันหลายประเด็น และสิ่งที่คุยกันคือจะจัดการแข่งขันอย่างไรให้คุ้มค่า ต่อมาโอซีเอได้ทำหนังสือขอปรับลดจำนวนชนิดกีฬาลง 14 ชนิดกีฬา เหลือ 22 ชนิดกีฬากับ 2 กีฬาสาธิต ซึ่งเรื่องนี้ขอยืนยันว่าทางกระทรวงไม่ได้เป็นคนเสนอเรื่องนี้เอง
“ปัญหาที่เกิดคือเรื่องของความคุ้มค่า สิ่งสำคัญคือจะต้องดูจากยอดจำนวนนักกีฬาที่จะเข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ ซึ่งเดิมมีข้อมูลว่าจะมีนักกีฬาและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าร่วมประมาณ 14,000 คน แต่ปรากฎว่าจนถึงวันที่ลงทะเบียนนักกีฬา (Entry form by name) วันสุดท้าย 17 สิงหาคม มีเพียง 1,938 คน ใน 24 ชนิดกีฬา ทำให้เราตระหนักว่าจะมีคนมามากแค่ไหน ตัวเลขมันไม่สอดคล้องกับงบประมาณที่ตั้งเอาไว้..
นายเสริมศักดิ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม ทางประเทศไทยได้ส่งหนังสือยืนยันกับโอซีเอยืนยันว่าจะเป็นเจ้าภาพอย่างแน่นอน เพราะเป็นการแสดงถึงความเป็นศูนย์รวมของการแข่งขันและได้ประสบการณ์ในการจัดกีฬา เพียงแต่การของบบางอย่างยังไม่ได้รับอนุมัติ เป็นเพราะเรารอดูการลงทะเบียน อยากดูความคุ้มค่า จนกระทั่งวันที่ 19 สิงหาคม โอซีเอมีหนังสือยกเลิกการเป็นเจ้าภาพของประเทศไทย ถ้าถามส่วนตัวก็รู้สึกเสียดายโอกาสที่ไทยจะได้เป็นเจ้าภาพ แต่เราก็เคารพการตัดสินใจของโอซีเอ
“ในส่วนของนักกีฬาที่ฝึกซ้อมกันมา4 ปี ก็จะให้การดูแลสนับสนุน ต้องพิจารณาต่อไปว่า จะส่งไปแข่งขันกีฬาอะไรได้บ้าง การฝึกซ้อม การเก็บตัว ค่าใช้จ่ายต่างๆ กระทรวงจะดูแลอย่างดี จะทำให้ดีที่สุด อย่าวิตกกังวลอะไร เพราะเดิมทีเราคิดว่าจะจัดแน่นอน แต่เมื่อเลิกจัดเราก็จะดูแล โดยจะมีการประชุมกับทุกสมาคมฯ ที่เกี่ยวข้องเร็วๆ นี้”
ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า ทางคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ แจ้งว่าโอซีเอมีความกังวลใน 9 ประเด็น ประเด็นสำคัญคืองบประมาณที่ไม่พร้อม จึงทำให้เป็นการยกเลิกการแข่งขันนั้น ทำให้ถูกมองว่ารัฐบาลไทยไม่มีความพร้อมเป็นสาเหตุที่ทำให้ถูกยกเลิกหรือไม่ ทางนายเสริมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่เป็นความจริง เพราะเงินมีพร้อม แต่เราจะต้องใช้ให้คุ้มค่า...
ดร.ก้องศักดิ์ กล่าวเสริมนายเสริมศักดิ์ในประเด็นนี้ว่า ได้มีหนังสือแจ้งไปทางโอซีเอว่าเราพร้อมจะเป็นเจ้าภาพ อธิบายใน 9 ประเด็นว่ามีการเตรียมการเอาไว้แล้ว ที่พักประสานแล้ว สถานที่แข่งขันก็คุยแล้ว ในขั้นสุดท้ายเราเซ็นสัญญาผูกพันธ์ตามกฎหมายไม่ได้เท่านั้นเอง
ผู้สื่อข่าวสอบถามต่อว่าการดำเนินการโดยรอให้นักกีฬาลงทะเบียนครบแล้วค่อยดำเนินการจัดงานนั้นช้าไปหรือไม่นั้น นายเสริมศักดิ์ กล่าวว่า เราคุยกันว่าการจะจัดกีฬา จะต้องดูเรื่องการใช้งบที่เหมาะสม จึงต้องการให้มีตัวเลขที่ชัดเจน แล้วเรายังมีขั้นตอนอีกหลายขั้นตอนด้วย แต่ยืนยันว่าไม่ใช่เราไม่มีเงิน แค่ต้องใช้ให้เหมาะสมและโปร่งใส
“มันต้องชัดเจนว่านักกีฬาจะมีจำนวนเท่าไหร่ กับจำนวนงบประมาณ ถ้าเข้าร่วมน้อย งบก็ต้องน้อยลง เพราะมันคิดตามจำนวนนักกีฬาอยู่แล้ว” นายเสริมศักดิ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าถ้าใช้หลักการนี้ในการจัดซีเกมส์ ที่จะมีขึ้นในปี 2568 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ จะซ้ำรอยปัญหาหรือไม่นั้น นายเสริมศักดิ์ กล่าวว่า ซีเกมส์ถือเป็นมหกรรมกีฬาที่เป็นสากล แต่เอเชี่ยนอินดอร์ฯ เป็นกีฬาที่จัดเพื่อต่อยอดสู่กีฬาสากล ดังนั้นคงไม่เกิดปัญหาแบบเดียวกันแน่นอน
ผู้สื่อข่าวถามว่าการที่ยกเลิกจัดการแข่งขันทำให้ประเทศไทยเสียภาพลักษณ์ไปพอสมควรนั้นจะแก้ไขอย่างไร โดยเฉพาะกับกีฬาซีเกมส์ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพในปี 2568 นั้น นายเสริมศักดิ์ กล่าวว่า เรามีการเตรียมการ มีความพร้อมอยู่แล้ว เชื่อว่าเมื่อถึงเวลาเราจะมีความพร้อมทุกอย่าง จริงๆ อินดอร์ฯ ก็ไม่คิดว่าจะยกเลิก เพราะอีกเล็กน้อยจะปรับเรื่องงบประมาณได้ ต่อให้เงินกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติไม่พอ รัฐบาลก็พร้อมจะสนับสนุนงบกลางให้เช่นกัน ดังนั้นเมื่อถึงเวลาที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพกีฬาใดๆ ก็ตาม เราจะมีความพร้อมและสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยได้
ก่อนที่นายจิรวัฒน์ อรัญยกานนท์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะกล่าวเพิ่มเติมว่า ต้องบอกก่อนว่าเราไม่ได้ดำเนินการล่าช้า แต่ถ้าทำทุกอย่างรวดเร็วโดยไม่มีการตรวจสอบเงื่อนไขให้เรียบร้อย จะก่อให้เกิดความเสียหาย ฉะนั้นการรอบคอบก็สำคัญ
“อีกอย่างหนึ่งคือประเทศไทยไม่ได้เสียหายอะไร เพราะโอซีเอเป็นคนยกเลิกเราไม่ได้เป็นคนยกเลิกเอง ในทางกลับกัน งบประมาณที่เหลืออยู่จากอินดอร์เกมส์ฯ เรารักษางบตรงนั้นเอาไปเดินหน้าจัดซีเกมส์หรือส่งนักกีฬาแข่งขันรายการต่างๆ รวมถึงเก็บตัวฝึกซ้อมเพื่ออินดอร์เกมส์ ปีหน้าที่ซาอุดีอาระเบีย หรือเตรียมซีเกมส์ ฉะนั้นถือว่าไม่ล่าช้าและไม่เสียหายแน่นอน” นายจิรวัฒน์ กล่าว...