Last updated: 11 ก.ย. 2568 |
สว.จวกยับครั้งที่ 4 ! ซีเกมส์ไทยยังไม่พร้อม โลโก้ยังไร้วี่แวว งบไม่พอ-ที่พักนักกีฬาจ่อวิกฤต หวั่นเสียหน้าทั่วโลก"
นายธัชชญาณ์ณัช เจียรธนัทกานนท์
รองประธานคณะกรรมาธิการท่องเที่ยวและกีฬา วุฒิสภาคนที่ 1 เป็นประธานการประชุมเพื่อ
พิจารณาความคืบหน้าการเตรียมความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ระหว่างวันที่ 9-20 ธ.ค.68 โดยเชิญผู้แทนจากการกีฬาแห่งประเทศไทย , กรมบัญชีกลาง และสำนักงบประมาณเข้าชี้แจงที่ห้อง 406 อาคารรัฐสภา เมื่อวันที่ 9 ก.ย.68 ที่ผ่านมา
นายเลอสันติ์ เสาหล่อน หัวหน้างานแข่งขันกีฬานานาชาติ กีฬาแห่งประเทศไทย ชี้แจงว่า ขณะนี้หลายฝ่ายกำลังเร่งส่งข้อมูลที่จำเป็นให้กับประเทศสมาชิกภายในสิ้นเดือนกันยายนนี้ โดยเฉพาะคู่มือการเดินทาง คู่มือทางการแพทย์ และการขอใช้สนามฝึกซ้อม ซึ่งทุกอย่างกำลังดำเนินการไปอย่างต่อเนื่อง
แต่ที่น่าเป็นห่วงคือเรื่อง โลโก้ สัญลักษณ์ประจำการแข่งขัน ที่ยังอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบสัญญาของสำนักงานอัยการสูงสุด ทำให้ยังไม่สามารถเปิดตัวให้ชาวต่างชาติรับรู้ได้
ส่วนเรื่องงบประมาณปี 69 กกท. ได้รับจัดสรรมาแล้วกว่า 2,000 ล้านบาท และกำลังขอ งบกลาง ปี 68 ที่ยังได้ไม่ครบ เพิ่มเติมอีก 450 ล้านบาทภายในเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งหากได้มาครบก็จะทำให้มีงบสำหรับซีเกมส์เกือบ 2,500 ล้านบาท
ด้านนายธีรเดช ถิรพร ที่ปรึกษางบประมาณ จากสำนักงบประมาณ ได้เตือนว่า การของบกลางเป็นทางเลือกสุดท้ายที่จะช่วยแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และหากงบประมาณที่ขอมีมูลค่าเกิน 100 ล้านบาท ก็จะต้องผ่านมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เสียก่อน พร้อมทั้งย้ำให้ กกท. เร่งทำแผนให้ชัดเจนและขอมาโดยเร็วที่สุด
นายธัชชญาณ์ณัช เปิดเผยว่า การกีฬาแห่งประเทศไทย ควรจะแสดงบทบาทและเร่งจัดการเรื่องสำคัญๆ โดยเฉพาะโลโก้และสิทธิประโยชน์จากการถ่ายทอดสด เพราะหากยังล่าช้าเช่นนี้จะทำให้ รัฐบาลต้องเสียรายได้มหาศาล
นอกจากนี้ยังเจอปัญหาใหญ่เรื่อง สนามแข่งและที่พักนักกีฬา เนื่องจากช่วงเดือนธันวาคมเป็นช่วง High Season ที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากมาจองห้องพัก ทำให้ห้องพักหายากและราคาสูง ซึ่งเรื่องนี้ต้องรีบแก้ไขให้เสร็จภายใน 3 เดือนข้างหน้า
คณะกรรมาธิการฯ ยังตั้งข้อสังเกตว่าจนถึงตอนนี้ยังไม่มีการประชาสัมพันธ์ความพร้อมของประเทศไทยเลย ซึ่งอาจเป็นเพราะขาดงบประมาณ จึงได้เสนอแนะให้ กกท. ลอง หยิบยืมเงินจากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ ที่มีงบฉุกเฉินสำรองอยู่ประมาณ 1,000 ล้านบาทมาใช้แก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน แต่ก็ติดปัญหาตรงที่ต้องปรึกษาบอร์ดกองทุนฯ ซึ่งประธานก็คือรองนายกฯ ที่ตอนนี้ยังไม่มีการตั้งครม.ใหม่ ทำให้ยังไม่รู้ว่าจะต้องไปคุยกับใคร
ด้าน นางประทุม วงสวัสดิ์ สมาชิกวุฒิสภา กล่าวว่า แม้จะยังไม่มีงบประมาณ แต่เจ้าหน้าที่ก็ควรเริ่มลงพื้นที่ได้แล้ว เพื่อทำ Action Plan และตรวจสอบความพร้อมของสถานที่แข่ง ทั้งเรื่องความสะอาด ความปลอดภัย และการจราจร โดยเฉพาะการรับมือกับนักกีฬาและกองเชียร์จากประเทศกัมพูชา
พร้อมเน้นย้ำว่าการวางแผนเหล่านี้ "ไม่ต้องใช้เงิน แต่ใช้พลังของเรา" อย่ามัวแต่ติดคำว่าใช้งบประมาณอย่างเดียว เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องของภาพลักษณ์และชื่อเสียงของประเทศไทย ทั้งในการจัดการแข่งขันและการต้อนรับแขกต่างชาติ
ทั้งนี้ทางคณะกรรมาธิการฯ แสดงความกังวลอย่างยิ่งว่าเรื่องเหล่านี้ไม่ควรจะเกิดขึ้นเพราะการเป็นเจ้าภาพควรจะมีการเตรียมแผนล่วงหน้าแล้ว และจะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดต่อไป.