"สว.จำลอง" เบรกแก้ รธน. ทั้งฉบับ ชี้แก้รายมาตราอาจเป็นทางออกดีกว่า

"สว.จำลอง" เบรกแก้ รธน. ทั้งฉบับ ชี้แก้รายมาตราอาจเป็นทางออกดีกว่า
​ "จำลอง อนันตสุข" สว.สุพรรณบุรี ดีกรีสื่อมวลชนอาวุโสใช้ประสบการณ์ 35 ปี ชำแหละประวัติศาสตร์การเมืองไทยกลางสภา เตือนสติรัฐบาล อย่าด่วนรื้อทั้งฉบับ หวั่นซ้ำรอยอดีต พร้อมตั้ง 3 ข้อสังเกตคมกริบถึงการตั้ง สสร. ชี้ทางออกอาจอยู่ที่การแก้เฉพาะจุดที่เป็นปัญหา
​วันที่ 14 ตุลาคม 2568 ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภานัดพิเศษ เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่เสนอโดย 3 พรรคการเมือง ซึ่งมีนายมงคล สุระสัจจะ รองประธานรัฐสภาเป็นประธานในที่ประชุม
นายจำลองอนันตสุข สมาชิกวุฒิสภา จ.สุพรรณบุรี อภิปรายต่อร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า ในฐานะสื่อมวลชนอาวุโสที่คลุกคลีอยู่ในแวดวงการเมืองมากว่า 35 ปี เห็นการปฏิวัติรัฐประหารมาหลายรูปแบบ ตั้งแต่พฤษภาทมิฬปี 2535 เป็นต้นมา โดยรัฐธรรมนูญส่วนใหญ่ล้วนมาจากการปฏิวัติทั้งสิ้น มีเพียงฉบับปี 2540 ที่มาจากประชาชนอย่างแท้จริงผ่าน ส.ส.ร. ซึ่งตนเข้าใจความต้องการของรัฐบาลชุดปัจจุบันที่ต้องการให้รัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ที่บังคับใช้มาแล้วกว่า 8 ปี เป็นรัฐธรรมนูญของประชาชนอย่างแท้จริง
"รัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 มีทั้งหมด 16 หมวด 279 มาตรา เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยโดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เสริมสร้างความเข้มแข็งในระบอบคุณธรรมจริยธรรม คุ้มครองสิทธิเสรีภาพของปวงชนชาวไทยและมีกลไกในการปฏิรูปประเทศในด้านต่างๆที่สร้างความมั่นคงมั่งคั่งและยั่งยืน ทั้งในทางการเมืองการปกครองเศรษฐกิจและสังคม รัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 มีการออกเสียงประชามติในความเห็นชอบแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญมาเช่นกันด้วย" นายจำลองกล่าว
สว.จำลอง จึงได้ตั้งข้อสังเกตไปยังรัฐบาลและพรรคร่วมฯ ดังนี้
1.สสร. ต้องเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ: "การตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ต้องได้บุคคลที่มีความรู้ มีประสบการณ์ มีความเชี่ยวชาญ และมีทักษะเรื่องประชาธิปไตยอย่างแท้จริง"
2.อย่าจำกัดสิทธิคนไทย: "พี่น้องประชาชนคนไทยคือคนไทยที่มีสัญชาติไทย เชื้อชาติไทย อย่ากำหนดสิทธิของบุคคลในการสรรหาคัดเลือกเป็น สสร."
3.กกต. ต้องคุมเกมเลือกตั้ง สสร.: "ให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นผู้ควบคุมและกำหนดเขตในการเลือกตั้ง สสร. เพื่อความโปร่งใส"
​

​"กราบเรียนท่านประธานและเพื่อนสมาชิกด้วยความเคารพว่า ในสภาวะปัจจุบัน เราจำเป็นต้องเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับหรือไม่? ถ้าจะแก้ไข ควรจะแก้ไขเฉพาะจุดที่มีปัญหา"
​ทั้งนี้คำถามดังกล่าวไม่เพียงแต่เป็นการเบรกเกมรื้อใหญ่ของรัฐบาล แต่ยังเป็นการจุดประเด็นให้สังคมและสมาชิกรัฐสภาต้องกลับมาขบคิดว่า ระหว่างการ "เขียนใหม่ทั้งฉบับ" กับการ "ผ่าตัดใหญ่เฉพาะส่วน" แนวทางใดจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติมากที่สุดในสถานการณ์ปัจจุบัน.