"สว.จำลอง" ชงบรรจุพลศึกษา เป็น "วิชาหลัก" หวังดึงเด็กไทยพ้นวงจร "ติดเกม-ติดยา"

"สว.จำลอง" ชงบรรจุพลศึกษา เป็น "วิชาหลัก" หวังดึงเด็กไทยพ้นวงจร "ติดเกม-ติดยา"

​วันที่ 3 ธ.ค.68 นายจำลอง อนันตสุข สมาชิกวุฒิสภา เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมาธิการด้านกีฬา วุฒิสภา เพื่อพิจารณาข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาและแนวทางปรับปรุงหลักสูตรการจัดการเรียนการสอนวิชาพลศึกษาในโรงเรียน โดยมีผู้แทนจากสำนักวัฒนธรรมกีฬาและการท่องเที่ยวกรุงเทพมหานคร , สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน , โรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยนาท , โรงเรียนกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรี , โรงเรียนสตรีวิทยา 2 และโรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี เข้าชี้แจงให้ข้อมูล


นายจำลอง เปิดเผยภายหลังการรับฟังข้อมูลว่า หลักสูตรปัจจุบันกำหนดให้มีการเรียนการสอนวิชาพลศึกษาเพียง สัปดาห์ละ 1-2 คาบเท่านั้น ซึ่งถือว่าน้อยเกินไป และในทางปฏิบัติผู้บริหารโรงเรียนบางแห่งไม่ได้ให้ความสำคัญกับวิชานี้เท่าที่ควร จึงถึงเวลาที่ประเทศชาติต้องให้ความสำคัญกับกีฬาและพลศึกษาให้มากขึ้น เพราะมันคือตัวกำหนด "คุณลักษณะที่พึงประสงค์" ของเด็กไทยซึ่งเป็นอนาคตของชาติ

​"เราต้องหาทางผลักดันให้บรรจุวิชาพลศึกษาเป็นวิชาหลักในการเรียนการสอนไปเลย เหมือนกับที่นานาประเทศเขาทำกัน เพราะวิชานี้เป็นมากกว่าแค่การออกกำลังกาย แต่มันเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวทางกีฬา การมีสติในการใช้ชีวิต และสร้างประโยชน์ที่ประเทศชาติจะได้รับ" นายจำลอง กล่าว.

นอกจากนี้นายจำลอง ยังแสดงความกังวลต่อปัญหาสังคมในปัจจุบันที่เด็กและเยาวชนกำลังประสบปัญหา "ติดยา ติดเกม ติดโซเชียล" และยังประสบปัญหา "ออกนอกระบบ" การศึกษาเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งการออกกำลังกายจะช่วยกระตุ้นให้เด็กกระตือรือร้นและมีสติในการใช้ชีวิตมากขึ้น


ดังนั้น คณะอนุกรรมาธิการฯ จึงต้องการผลักดันให้ สพฐ. บรรจุวิชาพลศึกษาเป็นวิชาหลัก เพื่อเพิ่มชั่วโมงการเรียนการสอน และเพิ่มบทบาทให้ผู้บริหาร ครูพลศึกษา สามารถนำหลัก "วิทยาศาสตร์การกีฬาและกายภาพ" มาประยุกต์ใช้ในการเรียนการสอนอย่างจริงจัง

"เราต้องทำให้ประเทศชาติแข็งแรง เศรษฐกิจแข็งแรง เริ่มต้นได้จากการสร้างเยาวชนที่มีคุณภาพผ่านหลักสูตรพลศึกษาที่เข้มแข็ง" นายจำลอง ทิ้งท้าย.