กลุ่มเกษตรกร เข้าพบ “พล.อ.ประวิตร” หารือปาล์มน้ำมัน

กลุ่มเกษตรกร เข้าพบ “พล.อ.ประวิตร” หารือปาล์มน้ำมัน ยัน รัฐบาลให้ความสำคัญแก้ปัญหาราคา คาดปี 65 ชาวสวนปาล์มรายได้ไม่น้อยกว่า 1.2 แสนล้าน โดยที่ไม่ต้องประกันรายได้ เร่งยกร่าง พ.ร.บ.ใหม่

วันที่ 26 เม.ย.65 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) กล่าวกับตัวแทนเกษตรกรชาวสวนปาล์มกว่า 25 ราย จากพื้นที่ จังหวัดปทุมธานี นครศรีธรรมราช ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และพังงา ที่เข้าพบเพื่อหารือเรื่องปาล์มน้ำมันที่ทำเนียบรัฐบาล ว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาราคาปาล์มน้ำมันที่ไม่เป็นไปตามกลไกตลาดโลก ด้วยมาตรการด้านอุปสงค์และอุปทาน เพื่อให้มีการบริหารจัดการสต๊อกส่วนเกินที่สอดคล้องกับฤดูกาลผลิตและการส่งออกน้ำมันปาล์ม รักษาเสถียรภาพราคาปาล์มน้ำมันให้เป็นไปตามโครงสร้างที่เป็นธรรมกับทุกฝ่าย
รวมทั้งการเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ปาล์มนำ้มันเพื่อเพิ่มความต้องการใช้ภายในประเทศและส่งออกเป็นสินค้าสำเร็จรูป 8 ชนิด ด้วยความมุ่งมั่นให้พี่น้องชาวสวนปาล์มมีรายได้เพิ่มมากยิ่งขึ้นและมีความเป็นอยู่ดีขึ้น

ขณะที่ พล.ต.อ.ดร.ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง กล่าวเสริมว่า 2-3 ปีที่ผ่านมา การยกระดับรายได้ของชาวสวนปาล์มได้ผลสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ โดยมูลค่าปาล์มทะลายเพิ่มจาก 5 หมื่นล้านบาท ในปี 2562 เป็น 7 หมื่นล้านบาท ในปี 2563 และ 1.1 แสนล้านบาท ในปี 2564 รวม 3 ปี 2.3 แสนล้านบาท และปี 2565 คาดว่าจะมีเม็ดเงินเป็นรายได้ตกถึงชาวสวนปาล์มไม่น้อยกว่า 1.2 แสนล้านบาท โดยที่รัฐไม่ต้องใช้เงินประกันรายได้เลยแม้แต่สตางค์เดียว
ผลิตผลการเกษตรอื่นกำลังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสถานการณ์โควิด-19 และสภาวะเศรษฐกิจ แต่ราคาปาล์มน้ำมันกลับวิ่งตามราคาตลาดโลก ทั้งที่โดนปรับลดส่วนผสมในไบโอดีเซลลงเท่าตัว จาก B10 เป็น B5 และการบริโภคน้ำมันปาล์มภายในประเทศที่ลดลงจากผลกระทบของการสั่งปิดร้านอาหารป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ พล.อ.ประวิตร ตัดสินใจผลักดันการส่งออกในราคาที่แข่งขันได้ สร้างความต้องการให้กับน้ำมันปาล์มส่งออกมากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เพื่อบริหารสต๊อกและส่งผลให้ราคาปาล์มทะลายของไทยขึ้นตามราคาตลาดโลกอย่างต่อเนื่องโดยไม่ถูกกดราคาเหมือนปีก่อนๆ รวมถึงสั่งการให้แก้ไขปัญหาทั้งระบบ ได้แก่ 1.ระดับต้นน้ำ ลดการตัดปาล์มดิบและการซื้อขายปาล์มที่ไม่เป็นธรรมให้มีมาตรฐานดีขึ้น
2.ระดับกลางน้ำ การปรับปรุงอัตราการสกัดน้ำมันปาล์มดิบให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น
3.ระดับปลายน้ำ หาแนวทางการแปรรูปน้ำมันปาล์มดิบและผลพลอยเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ 8 ชนิดที่ กนป. มีมติเห็นชอบและรายงานต่อ ครม. แล้ว

คาดว่าไม่เกินปี 2568 จะมีการนำน้ำมันปาล์มไปใช้ผลิตสินค้าใหม่ๆ เหล่านั้น เพื่อใช้ในประเทศและส่งออกไปยังตลาดโลก โดยไม่ต้องห่วงว่า หากมีการลดส่วนผสมน้ำมันปาล์มในไบโอดีเซลแล้วจะทำให้ราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำ เพราะนี่เป็นการแก้ปัญหาในระยะยาว ขณะเดียวกัน พล.อ.ประวิตร ยังเร่งรัดให้มีการจัดทำโครงสร้างราคาที่มีความล่าช้า เร่งรัดให้ติดตั้งมิเตอร์เพื่อการตรวจสอบระดับสต๊อกน้ำมันปาล์ม การปรับปรุงระบบการตรวจสอบระดับสต๊อกให้ทันสมัยและถูกต้อง การแก้ปัญหาการลักลอบการนำเข้าน้ำมันปาล์ม การต่ออายุมาตรการสนับสนุนการส่งออกน้ำมันปาล์ม และการคงสัดส่วนสูตรผสมน้ำมันไบโอดีเซลที่ 5% หรือ B5 ชั่วคราวช่วงวิกฤติยูเครนเท่านั้น
สำหรับเรื่องสำคัญเร่งด่วนอีกประการ คือ การยกร่าง พ.ร.บ.ใหม่สำหรับปาล์มน้ำมัน ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ ดังนั้น ปาล์มน้ำมันจึงมีอนาคตที่สดใส สมกับที่ได้เป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ของไทยในช่วงที่อยู่ในการกำกับดูแลของ พล.อ.ประวิตร.

#ไทยนิวส์เอเชียออนไลน์