"ศรีสุวรรณ" บุก ป.ป.ช. ยื่นสอบ นอภ.ป่าติ้ว-ผอ.พุทธฯ จ.ยโสธร ปล่อย "หลวงปู่แสง" ถูกจาบจ้วง

Last updated: 17 พ.ค. 2565  | 

"ศรีสุวรรณ" บุก ป.ป.ช. ยื่นสอบ นอภ.ป่าติ้ว-ผอ.พุทธฯ จ.ยโสธร ปล่อย "หลวงปู่แสง" ถูกจาบจ้วง

วันนี้ (17 พ.ค.65) ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางมายื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. เพื่อขอให้ไต่สวนสอบสวนและเอาผิดนายอำเภอป่าติ้วและ ผอ.พุทธศาสนาฯ จ.ยโสธร กรณีละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ปล่อยให้หมอปลาและพวก พาทีมสื่อมวลชน บุกไปที่สำนักสงฆ์ดงสว่างธรรม อำเภอป่าติ้ว จังหวัดยโสธร เพื่อกล่าวหา "หลวงปู่แสง ญาณวโร" ซึ่งมีความผิดทางอาญาหลายมาตรา

โดยเฉพาะการนำคลิปภาพและเสียงที่จัดทำขึ้นในลักษณะล่อให้กระทำความผิด อันเป็นพยานหลักฐานอันเป็นเท็จตาม ปอ.มาตรา 179 มาเป็นพยานในการกล่าวหา ดังกล่าว และใช้กิริยาวาจาและท่าทางที่ไม่เหมาะสม ไม่เป็นการเคารพพระอริยสงฆ์ในพุทธศาสนา เป็นเหตุให้เกิดเป็นกระแสไม่พอใจของศิษยานุศิษย์และประชาชน เนื่องจากว่า ข้อเท็จจริง “หลวงปู่แสง” ท่านชราภาพอายุเกือบ 100 ปีแล้ว และมีอาการป่วยอัลไซเมอร์ จึงไม่มีเหตุผลที่มีน้ำหนักที่จะเป็นไปตามการกล่าวหาได้

ซึ่งการบุกไปสำนักสงฆ์ดังกล่าว มีนายอำเภอป่าติ้ว ผอ.พุทธฯยโสธร และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ร่วมคณะบุกไปร่วมด้วย ซึ่งบุคคลดังกล่าวเป็นเจ้าหน้าที่ราชการ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ ย่อมต้องเข้าใจกฎ ระเบียบ และขั้นตอน วิธีการในการปฏิบัติต่อพระเถระชั้นผู้ใหญ่ดี แต่กลับปล่อยให้หมอปลาและพวกแสดงพฤติกรรมในลักษณะข่มขืนใจหลวงปู่แสงให้ยอมรับว่ากระทำการใด หรือไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด อันมีลักษณะความผิดตาม ป.อ.มาตรา 309 และยังอาจเข้าข่ายผิดตามมาตรา 14 (1) แห่ง พรบ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ประกอบ พ.ร.บ.คณะสงฆ์ 2505 แก้ไขเพิ่มเติม 2535 มาตรา 44 ตรี และตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 209 และมาตรา 210 ฐานอั้งยี่-ช่องโจร อีกด้วย

ในส่วนของนายอำเภอป่าติ้ว และ ผอ.พุทธศาสนาฯ จ.ยโสธร ร่วมเดินทางไปกับขบวนของหมอปลา และพวก และปล่อยให้มีพฤติการณ์ข่มขืนใจ จาบจ้วง และการแสดงกริยาวาจาท่าทางที่ไม่เหมาะสม ต่อ "หลวงปู่แสง ญาณวโร" ให้ยอมรับผิดตามการกล่าวหา ถือได้ว่ามีส่วนช่วยเหลือหรือสนับสนุนให้หมอปลาและคณะกระทำความผิด ตาม ป.อ.มาตรา 86 ต้องะวางโทษ 2 ใน3 ของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดที่สนับสนุนนั้น เพื่อมิให้เจ้าหน้าที่รัฐถูกบุคคลใดใช้ตำแหน่งหน้าที่เป็นเครื่องมือของใครในการกระทำดังกล่าว หรือแสวงหาผลประโยชน์แอบแฝง หรือทำลายพระพุทธศาสนา สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงจำต้องนำความมาร้องต่อ ป.ป.ช. เพื่อให้ดำเนินการได่สวนสอบสวนและเอาผิดผู้ที่ถูกกล่าวหาทั้งสองและผู้ที่เกี่ยวข้องในโทษขั้นสูงสุด

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้