"อนุทิน" เผยแนวทางเตรียมความพร้อม ก่อนปรับโควิดสู่โรคประจำถิ่น

Last updated: 2 มิ.ย. 2565  | 

 "อนุทิน" เผยแนวทางเตรียมความพร้อม ก่อนปรับโควิดสู่โรคประจำถิ่น

นายอนุทิน นำทีมประชุมคณะผู้บริหารระดับสูง นานกว่า 3 ชั่วโมง ก่อนแถลงข่าวเปิดเผยแนวทางเตรียมความพร้อมในการปรับโรคโควิดสู่โรคประจำถิ่น พร้อมร่วมงานกับผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่ สาธารณสุขอย่างเต็มที่เพื่อการรวมพลังยับยั้งการระบาดของโรค

วันที่ 1 มิ.ย. เวลา 9.00 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะผู้บริหาร เข้าร่วมการประชุมผู้บริหารระดับสูงกระทรวงสาธารณสุข ครั้งที่ 6

จนกระทั่งในเวลา 11.30 น. เสร็จสิ้นการประชุม โดยนายอนุทิน ได้ร่วมแถลงข่าว โดยกล่าวถึงสถานการณ์การระบาดของโควิด 19 อยู่ในสถานการณ์ที่ดีขึ้นตามลำดับ ส่วนใครที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนก็ขอให้เข้ามารับ ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุขมีความพร้อมจะให้บริการกับประชาชน ใครที่มารับวัคซีนแล้วก็ขอให้มารับเข็มบูสเตอร์ เพราะบุคลากรทางการแพทย์ ต่างได้รับวัคซีนเข็ม 4 และ เข็ม 5 กันหมดแล้ว ก็ไม่เห็นมีใครได้รับผลเสีย หรือผลกระทบที่ไม่ดีต่อระบบสุขภาพ ยืนยันให้บริการวัคซีนอย่างเต็มที่ เพราะวัคซีนเป็นปัจจัยสำคัญในการควบคุมโรค และป้องกันการเสียชีวิต


กระทรวงสาธารณสุขมั่นใจว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ต่างๆของโควิดได้เป็นอย่างดี ปัจจุบันพบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อวันลดลงต่ำกว่า 5,000 ราย พบผู้เสียชีวิตต่ำกว่า 50 ราย มีความครอบคลุมการฉีดวัคซีนป้องกันเกือบ 140 ล้านโดส และยังมีการรณรงค์ให้ฉีดเข็มกระตุ้นอย่างต่อเนื่องจนกว่าประชาชนจะมีความปลอดภัย

กระทรวงสาธารณสุขได้เสนอมาตรการผ่อนคลายต่างๆเพื่อคืนความเป็นปกติให้กับประชาชนโดยในวันนี้ 1 มิถุนายน รัฐบาลโดย ศบค. ได้ปรับมาตรการในระดับพื้นที่ให้กับพื้นที่นำร่อง และพื้นที่เฝ้าระวังสามารถเปิดสถานประกอบการที่มีลักษณะเป็นสถานบันเทิงผับบาร์คาราโอเกะและสถานบริการอาบอบนวดหรือสถานบริการอื่นๆที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน โดยขอให้ปฏิบัติตามมาตรการโควิด Free Setting ขอให้เปิดไม่เกินเที่ยงคืน หากเปิดเกินเข้าข่ายผิดกฎหมายทันที


ส่วนการบริการรับรักษาตัวผู้ป่วยสำหรับผู้ป่วยทั่วไปที่ไม่มีอาการและไม่ใช่ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงก็สามารถเข้ารับการรักษาผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในโดยไม่ต้องทำการตรวจหาเชื้อโควิด 19 ผ่อนคลายให้คนเฝ้าไข้ไม่ต้องตรวจ ATK และสามารถเยี่ยมได้สะดวกมากยิ่งขึ้น มีการตรวจ ATK ในผู้ป่วยที่ต้องการที่จะต้องการเตรียมการผ่าตัด หรือการตรวจรักษาการแพร่กระจายโควิดในอากาศและผู้ป่วยฉุกเฉินตามความเหมาะสมเพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์ และตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป การดำเนินการของโรงพยาบาลจะกลับคืนสู่สภาวะปกติ พร้อมการป้องกันการติดเชื้อของระบบหายใจดีขึ้นการส่งยาให้ถึงบ้าน

ขอย้ำว่าหากเกิดการระบาดในโรคระบบทางเดินหายใจ กระทรวงสาธารณสุขพร้อมที่จะมีบุคลากรและยาไปส่งมอบให้กับประชาชน ได้อย่างเพียงพอ

สำหรับนักเรียน ทางกรมอนามัยได้ปรับแนวทางการเรียนแบบ On Site โดยเปิดให้นักเรียนและครูประเมินความเสี่ยงอยู่เป็นประจำ และตรวจ ATK ทุกครั้งที่มีอาการ หรืออยู่ในความเสี่ยง และขอให้นักเรียนและครูได้รับการฉีดวัคซีนตามระยะเวลาที่กำหนด

ส่วนโควิด 19 จะเข้าสู่การเป็นโรคประจำถิ่นคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติจะมีการพิจารณาอย่างรอบคอบเสนอให้มีการปรับโควิด 19 จากโรคติดต่ออันตรายเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวังและจะมีการกำหนดแนวทางควบคุมป้องกันให้คล้ายกับโรคติดต่อทั่วไป ก็ยังคงต้องทำการเสนอนโยบายแนวทางปฏิบัติต่างๆผ่านที่ประชุมสปกเพราะว่ายังอยู่ภายใต้พระราชกำหนดสถานการณ์ฉุกเฉินอยู่

และขอให้มั่นใจว่ากระทรวงสาธารณสุขมุ่งเน้นความปลอดภัยด้านสุขภาพของพี่น้องประชาชนเป็นหลักสำคัญและจะทำทุกวิถีทางให้พี่น้องประชาชนมีภูมิคุ้มกันที่เพียงพอเหมาะสมสามารถที่จะใช้ชีวิตอย่างเป็นปกติสุขได้ไกลจากการติดเชื้อ

ส่วนในเรื่องของนโยบายที่จะประกาศอย่างไร หรือประกาศเมื่อไหร่ให้เป็นโรคประจำถิ่นนั้นยังต้องคงมีอีกหลายขั้นตอนส่วนนโยบายก็จะต้องนำเสนอให้ได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมสปกเท่านั้นและขอความร่วมมือกับประชาชนถือเป็นสิ่งสำคัญคือช่วงการเตรียมเข้าสู่โรคประจำถิ่นขอให้พี่น้องประชาชนยังคงปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคในการใช้ชีวิตแบบใส่หน้ากากอนามัยล้างมือเว้นระยะห่างทางสังคมและประเมินความเสี่ยงอยู่บ่อยครั้ง


ทั้งนี้ นายอนุทิน กล่าวในช่วงท้ายถึงกรณีว่าราชการกรุงเทพมหานครคนใหม่ที่จะเข้ามาทำงานนั้น ทางกระทรวงสาธารณสุขพร้อมจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ในการที่จะให้บริการด้านสาธารณสุขแก่พี่น้องประชาชนชาวกรุงเทพมหานคร ตามนโยบายผู้ว่าฯกทม. ให้เกิดการรวมพลังต่อไปไม่ต้องแบ่งแยกงานกันทำเหมือนที่ผ่านมาเพราะกระทรวงสาธารณสุขยังคงต้องรับผิดชอบภาพรวมแต่ก็ไม่สามารถที่จะสั่งการบริหารเฉพาะเจาะจงในพื้นที่ใดๆได้ควบคุมกทมได้เป็นอย่างดีก็สามารถควบคุมได้เกือบครึ่งประเทศ เป็นปัจจัยสำคัญในการระบาดของโรคหากทุกคนให้ความร่วมมือซึ่งกันและกันเป็นอย่างดี

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้