Last updated: 1 ต.ค. 2567 |
ผู้ปกครองพาลูกสาววัย 15 ปีร้องสื่อ ค่ายทหาร สัตหีบ ชลบุรี ทำเกินกว่าเหตุ หลังโรงเรียนดังย่านบางพลี ส่งลูกเข้าค่ายพฤติกรรม จนเป็นแผลกันทุกคน แม่ตั้งคำถามการฝึกของเด็ก 13-15 ปี ต้องใช้ร้องเท้าทหารถีบ เตะ และ ใช้ไม้ตีหลัง นอกจากนั้นยังให้คลานขึ้นเขาเวลากลางคืน มันโหดไปไหม วอนทนาย รายการดัง ใครก็ได้ช่วยที เพราะถูกรอง ผอ.ท้าให้ไปฟ้องทุกที และนี่เป็นข้อความที่ทาง นางสาว จิราภา หมอกใหม่ อายุ 33 ปี คุณแม่ของ ดู.ญ. อายุ 15 ปี ที่โพสต์ภายหลังเห็นรอยพกช้ำตามตัว ของบุตรสาว กลับมาจากเข้าค่ายพฤติกรรม ที่ทางโรงเรียนบางพลีราษฏบำรุง จัดขึ้นรวม 3 วัน ระหว่างวันที่ 25-27กย 67 ที่ค่ายทหาร แห่งหนึ่งใน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ที่ผ่านมาโดยข้อความของคุณแม่ที่โพสต์ขอความช่วยเหลือทางเฟสบุ๊คส่วนตัว เมื่อ 2 วันที่แล้วระบุว่า
รบกวนคุณกันหรือหน่วยงานใด ๆ ช่วยเหลือด้วยค่ะ เมื่อวันที่ 25 น้องนักเรียนรร.บางพลีราษบำรุงไปเข้าค่ายพฤษติกรรมที่ค่ายทหารชลบุรีสัตหีบ น้องๆทั้งผู้หญิงและผู้ชายที่ไปเข้าค่าย โดนทารุณ ตบ เตะกระทืบ จัดโกนผม กินใบขี้เหล็กที่เปื้อนดิน คลานกลางป่าตอนดึก ปิดตาโดยเด็กๆ เดินท่ากบแบย่อๆ เดินในป่า เดินไม่ตรงถูกไม้ฟาด ถ้าใครเถียงหรือมีอารมโดนทั้งกระทืบ ทั้งเตะ ให้ นร.ชาย ยุข้างประทัด จนสะเก็ด กระเด็นเข้า มือและตัว จากทหารฝึกในค่าย จนได้บาดแผลมาทั้งหญิงและชาย ผู้ใหญ่ทราบแต่ให้ปิดเรื่องแถมเป็นคนบอกให้ทหารจัดการเด็กให้หนักๆด้วยค่ะ รบกวนหน่อยได้มัยคะ มีผู้ถูกกระทำหลายคนน้องเพิ่งกลับจากค่ายวันนี้ ร่างกายบอบช้ำ ทางฝั่งค่ายฝากเด็กมาบอกว่า อยากแจ้งใครก้แจ้ง ถ้าคิดว่าทำอะไรได้
ล่าสุดในวันที่ 29 กย 67 เวลา 17.00 น. แม่ไอซ์ นำ ลูกสาว อายุ15ปี เข้าร้องเรียนกับนักข่าวของเรา อยากจะให้ช่วยหาความเป็นธรรมหลังลูกสาวเข้าค่ายและถูกฝึกเกินกว่าเหตุ โดยมีเด็กนักเรียนทั้งหมดที่เข้าข่ายพฤติกรรม รวม 125 คน แยกเป็นนักเรียนชาย 85 คน และนักเรียนหญิง 45 คน อายุ 13 - 15 ปี ที่ทางโรงเรีนถูกส่งไปเข้าค่าย ฐานความผิดระเบียบวินัยโรงเรียน 3 ข้อ ได้แก่เรื่องดูดบุหรี่ไฟฟ้า เรื่องทะเลาะวิวาท และเรื่องชู้สาว ภายในโรงเรียน โดยลูกสาว เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า รุ่นนี้เป็นรุ่นแรกที่ทางโรงเรียนส่งไปเข้าค่ายพฤติกรรม นอกสถานที่ โดยคิดค่าเข้าร่วมโครงการคนละ 1,100 บาท ต่อคน และให้โอนเข้าบัญชีส่วนบุคคล ที่ไม่ใช่บัญชีของโรงเรียนบางพลีราษฎรบำรุง ซึ่งปกติค่ายพฤติกรรม จะทำที่โรงเรียนตลอดหลายปีที่ผ่านมา พอเปลี่ยน ผอ.โรงเรียน นายกวีวัฒน์ ฤาชัยลาม ย้ายมาดำรงค์ตำแหน่งก็ให้ค่ายพฤติกรรม ไปฝึกกับค่ายทหาร วันแรกที่ไปก็ให้นอนพื้นกลิ้งกับพื้นก้อนดินร้อนๆ และช่วงหัวค่ำก็ให้คลานขึ้นเขาในสภาพพื้นลูกรัง เพื่อไปนั่งสมาธิ จนบางคนถึงกับร้องไห้ แต่ครูฝึกก็ตระวาดว่าร้องก็ไม่มีใครช่วยได้ และใครร้องมากจะทำโทษอีก เพื่อนผู้ชายบางคนก็ถูกไม้ตี ที่หลัง นอกจากนี้ยังมีการทำโทษให้เคี้ยวใบสะเดาเปื้อนดิน ให้กินมะขามขึ้นรา อีกด้วย ทำให้ท้องเสียหลายคน พอกลับมาเริ่มมีผู้ปกครอง โทรสอบถามทางโรงเรียน ผลปรากฎว่าทางโรงเรียน กล่าวว่าเด็กพวกนี้โกหก แถมน้องยังยืนยันทางรองผู้อำนวยการผู้ชาย ยังท้าให้ไปฟ้อง หรือเอานักกฎหมายมาเอาเรื่องโรงเรียน ได้เลยถ้าคิดว่ามีหลักฐาน ทำให้ผู้ปกครองทั้ง 125 รายแบ่งเป็น 2 ฝัง เพราะกลัวโรงเรียนจะเอาเรื่อง แต่อีกกลุ่มอยากจะเรียกร้องให้ออกมารับผิดชอบ เพราะการทำโทษเด็ก มีหลายวิธี แต่นี้เด็กอายุเพียง 13-15 ปี กลับถูกฝึกเหมือนทหาร หรือเด็กโต เวลาฝึกจนไม่ไหวก็ขอพักก็ไม่ให้พัก จนเด็กต้องฝืนและบอบช้ำเพื่อให้ทำเสร็จภารกิจแต่ละฐาน หากให้หยุดก็จะเพิ่มการฝึกขึ้นอีก จนเพื่อนลูกที่เป็นนักเรียนหญิง บางคนเข้ากลับมาเข้าโรงพยาบาล ร้องไห้ เพราะเจ็บเนื้อเจ็บทนไม่ไหว บางคนไข้ขึ้นหลายคน
ทั้งนี้แม่ไอซ์ ยังกล่าวทั้งน้ำตาอีกว่า การทำโทษเด็ก ทางผู้ปกครองเข้าใจ แต่นี้มันทำเกินไป ให้เด็ก 13-15 ปี ไปฝึกกับทหาร แบบเข้มค้นจนเด็กๆมีบาดแผล พกช้ำ ไข้ขึ้น ท้องเสีย เนี่ยหรือคือแนวทางการแก้ปัญหาของโรงเรียนที่ดีแล้วหรือ ซึ่งเด็ก 3 กลุ่มนี้ หากทำผิดก็มีเรื่องของกฎระเบียบร้องเรียนอยู่แล้ว หากไม่ฟังทางโรงเรียนก็เชิญผู้ปกครองตามขั้นตอนหรือให้ออกอยู่แล้ว หากมองกันดีๆ เด็ฏ 3 กลุ่มนี้ ไปค่ายทหารกลับถูกใช้ความรุนแรงทั้งทางกายและทางใจ โดยอ้างว่าไปเข้าค่ายทหารจะมีวินัย อีก ทำไมไม่มองหาวิธีอื่นในการสร้างการรับรู้ พวกคุณรู้หรือไม่ว่าเด็กบ้างคนไม่เคยก้าวร้าวกับผู้ปกครอง กลับมาก้าวร้าว ทั้งๆที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเพราะพวกคุณใช้ความรุนแรง และคำตอบว่าทหารไม่ได้ทำอะไร เวลาทำเป็นชายชาติทหาร แต่เวลาผิดไม่เหทือนชายชาติทหารตอบเลย กล้าทำต้องกล้ารับด้วย
ทั้งนี้ทางแม่ไอซ์ ไม่รู้จะไปพึ่งใคร เลยโพสต์ขอความช่วยเหลือกับสังคม ทางพื้นที่โซเชียวของตนเอง และขออขอบคุณผู้สื่อข่าว ที่ได้ประมานให้พื้นที่ความทุกข์ของ 125 ครอบครัว เพราะแผลทางกายไม่เท่าไรแต่แผลทางใจกับเด็กกลุ่มนี้ มันมากกว่าที่คิด
พร้อมกันนี้น้องอิง ยอมรับว่าการที่ออกมาเรียกร้องความยุติธรรมครั้งนี้ จะส่งผลอะไรกับตนหรือไม่ ในอนาคต ไม่รู้ แต่อย่างน้อยเพื่อให้รุ่นน้อง จะได้ไปต้องไปค่ายทหารนี้อีก และไม่ถูกทำร้ายเหมือนที่พวกตนโดนกระทำมา จึงตัดสินใจออกมาเรียกร้องในครั้งนี้
25 มิ.ย. 2568