แค่ออกวิ่ง อวัยวะก็ออกวิ่งด้วย ต้อนรับศักราชใหม่ Thai Health Day Run 2026 วิ่งสู่วิถีชีวิตใหม่

Last updated: 4 ธ.ค. 2568  | 

แค่ออกวิ่ง อวัยวะก็ออกวิ่งด้วย ต้อนรับศักราชใหม่ Thai Health Day Run 2026 วิ่งสู่วิถีชีวิตใหม่


“แค่ออกวิ่ง อวัยวะก็ออกวิ่งด้วย” ต้อนรับศักราชใหม่ “Thai Health Day Run 2026 วิ่งสู่วิถีชีวิตใหม่” สสส. สานพลัง สมาพันธ์ชมรมเดิน-วิ่งฯ ปลุกพลังเดิน-วิ่ง เพื่อสุขภาพทั่วไทย ชูการวิ่งช่วยให้หลอดเลือดกลับมายืดหยุ่น ระบบไหลเวียนโลหิตดีขึ้น และตับอ่อนได้พักจากการทำงานหนัก ควบคุมน้ำตาลในเลือดได้มีประสิทธิภาพ ฝึกซ้อมวิ่งละแวกบ้าน-เน้นปลอดภัย ก่อนลงสนามพร้อมกัน 25 ม.ค. 69 ณ สะพานพระราม 8

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 4 ธ.ค. 2568 ที่อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ กรุงเทพฯ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ สมาพันธ์ชมรมเดิน-วิ่ง เพื่อสุขภาพไทย จัดงานแถลงข่าว Thai Health Day Run 2026 วิ่งสู่วิถีชีวิตใหม่ ครั้งที่ 13 ภายใต้แนวคิด “แค่ออกวิ่ง อวัยวะก็ออกวิ่งด้วย” ซึ่งจะจัดกิจกรรมในวันที่ 25 ม.ค. 69 ที่ สะพานพระราม 8 


นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า สถานการณ์โรคไม่ติดต่อ (NCDs) ของคนไทยในรอบ 20 ปี (ปี 2547-2568) มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ทั้งเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โดยเฉพาะภาวะน้ำหนักเกินและอ้วนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ข้อมูลจากการสำรวจสุขภาพคนไทยด้วยการตรวจร่างกาย ครั้งที่ 7 (ปี2567-2568) พบคนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป ป่วยเบาหวาน 10.6% หรือ 6.1 ล้านคน ป่วยโรคความดันโลหิตสูง 29.5% หรือ 17.5 ล้านคน และมีภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วน 45% หรือ 27.4 ล้านคน ส่งผลให้ไทยไม่บรรลุเป้าหมายขององค์การอนามัยโลก (WHO) ที่กำหนดให้ภายในปี 2568 ไทยต้องลดโรคเบาหวานไม่เกิน 7.3% ความดันโลหิตไม่เกิน 17% และโรคอ้วนไม่เกิน 36.2% ของประชากรทั้งประเทศ ทั้งนี้ สสส. มุ่งจุดประกาย และสร้างกระแสกิจกรรมทางกาย เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ทำให้มีสุขภาพดี ลดความเสี่ยงเกิดโรค NCDs  โดยได้ริเริ่มและผลักดันให้คนไทยลุกขึ้นมาเริ่มวิ่งอย่างถูกวิธี ผ่านโครงการ Thai Health Day Run 2026 จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 13 ที่เป็นมากกว่างานวิ่ง แต่ได้เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างวิถีชีวิตใหม่ที่ทำให้คนไทยแข็งแรงขึ้นในทุกมิติ

“การมีกิจกรรมทางกายอย่างสม่ำเสมอ ช่วยลดความเสี่ยงโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้มากกว่าการรักษาในบางรูปแบบ สสส. จึงส่งเสริมให้ประชาชนเดิน-วิ่ง ซึ่งเป็นกิจกรรมพื้นฐานที่ทุกคนสามารถเริ่มต้นได้ทันที ช่วยให้อวัยวะภายในทำงานดีขึ้นทั้งระบบ เช่น หลอดเลือด หัวใจ และตับอ่อน เหมือนได้ออกกำลังกายไปพร้อมกัน ช่วยให้หลอดเลือดกลับมามีความยืดหยุ่น ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น หัวใจทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และลดภาระของตับอ่อน ทำให้ร่างกายควบคุมระดับน้ำตาลได้ดีขึ้น จึงลดโอกาสเกิดโรคเบาหวาน ความดัน และโรคหัวใจในอนาคต ร่างกายตอบสนองต่ออินซูลินดีขึ้น ซึ่งมีส่วนสำคัญช่วยลดความเสี่ยงโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง” นพ.พงศ์เทพ กล่าว


ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม รองผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า สสส. มุ่งส่งเสริมการมีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอ ลดพฤติกรรมเนือยนิ่ง สร้างประสบการณ์ตรงให้คนไทยได้เข้าถึงการมีกิจกรรมทางกายและเห็นประโยชน์ของ การเดิน-วิ่ง สร้างเสริมสุขภาวะอย่างบูรณาการ พร้อมสร้างแรงบันดาลใจแก่ทุกเพศทุกวัย ผลักดันให้เกิดนักวิ่งหน้าใหม่ โดยมีการเตรียมความพร้อมด้านการบริหารจัดการและมาตรฐานความปลอดภัยมุ่งยกระดับการจัดงานวิ่ง เน้นการจัดระบบการจัดงานวิ่งที่มีความปลอดภัย เสริมศักยภาพภาคีเครือข่ายและบุคลากรให้มีความเข้าใจในมาตรการจัดงานเพื่อการขยายผลในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ และส่งเสริมให้นักวิ่งมีความรู้ที่ถูกต้อง ควบคู่กับมาตรการการจัดงานที่ได้มาตรฐานระดับสากล Safe Fair Fun วิ่งปลอดภัย ยุติธรรม และสนุกสนาน เป็นงานวิ่งที่มีความหมายมากกว่างานวิ่ง


“Thai Health Day Run 2026 ไม่ได้อยู่แค่วันที่ลงสนามวิ่งเท่านั้น แต่คือการสร้างต้นแบบของ ‘ระบบนิเวศกิจกรรมทางกาย’ ที่เชื่อมโยงนักวิ่ง ชมรม ชุมชน ท้องถิ่น และภาคีเครือข่าย ให้ลุกขึ้นมาจัดกิจกรรมเดิน-วิ่งอย่างมีมาตรฐานของตัวเอง เกิดแกนนำสุขภาพในพื้นที่ สามารถดูแลความปลอดภัย ออกแบบเส้นทาง ฝึกอาสาสมัคร และดูแลผู้เข้าร่วมได้อย่างมืออาชีพ เมื่อชุมชนจัดงานวิ่งได้เองอย่างต่อเนื่อง ก็จะทำให้การวิ่งและการมีกิจกรรมทางกายกลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตประจำวัน ไม่ใช่แค่กิจกรรมปีละครั้ง ซึ่งจะช่วยสร้างผลลัพธ์ด้านสุขภาพที่ยั่งยืนมากขึ้นในระยะยาว” ดร.นพ.ไพโรจน์ กล่าว

นายประสาร จิรชัยสกุล ประธานสมาพันธ์ชมรมเดิน-วิ่งเพื่อสุขภาพไทย กล่าวว่า กิจกรรมในครั้งนี้มุ่งส่งเสริมการใช้พื้นที่สุขภาวะละแวกบ้าน เพิ่มพื้นที่มีกิจกรรมทางกายในชีวิตประจำวัน เพื่อป้องกันและลดการบาดเจ็บจากการซ้อมวิ่ง เตรียมความพร้อมร่างกายก่อนลงสู่สนามอย่างปลอดภัย โดยมี 8 ชุมชนต้นแบบ ได้แก่ ชุมชนชาวสวนสัมพันธ์, ชุมชนวัดพุทธบูชา ริมคลองบางมด, ชุมชนบางโคล่ กรุงเทพมหานคร, ชุมชนวัดท่าพระ, ชุมชนหมู่บ้านร็อคการ์เด้นสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ, ชุมชนด่านสำโรง 32 จ.นนทบุรี, ชุมชนทานสัมฤทธิ์ และชุมชนสวนเกษตรสามโคก จ.ปทุมธานี เข้าร่วมกิจกรรม ผ่านการอบรมเทคนิคการวิ่ง การให้คำปรึกษา และโปรแกรมฝึกซ้อม เพื่อเสริมสร้างความต่อเนื่องและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเนือยนิ่ง เพิ่มการมีกิจกรรมทางกายในระยะยาว พร้อมติดตามผลการเปลี่ยนแปลงของผู้เข้าร่วมก่อนถึงงาน “Thai Health Day Run 2026” กิจกรรมจะจัดขึ้นในวันที่ 25 ม.ค. 2569 ณ สะพานพระราม 8 กรุงเทพฯ มีระยะทาง 3 ระยะ ได้แก่ 10 กม. ปล่อยตัว 05.00 น. 5 กม. ปล่อยตัว 05.05 น. และเดินเพื่อสุขภาพ 3 กม. ปล่อยตัว 05.10 น. เปิดรับสมัครนักวิ่งเข้าร่วม 3,000 คน ค่าสมัคร 300 บาท ทุกระยะ สนใจสมัครวิ่งได้ที่ https://race.thai.run/thaihealthdayrun26 และติดตามรายละเอียดกิจกรรมได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ Thai Health Day Run


Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้